สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ มาทรงเปิดอุทยานบัว
ณ อุทยานหนองหารเฉลิมพระเกียรติ
มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร
วันที่ ๑ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ เวลา ๐๘.๐๐ น. สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่ง จากพระตำหนักภูพานราชนิเวศน์ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร ไปยังอุทยานบัว ซึ่งตั้งอยู่ที่ อุทยานหนองหารเฉลิมพระเกียรติ ตำบลเชียงเครือ อำเภอเมืองสกลนคร จังหวัดสกลนคร เพื่อทรงประกอบพิธีเปิดอุทยานบัว โอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.วิโรจ อิ่มพิทักษ์ นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ นายอดิศักด์ เทพอาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัด ดร.จงรัก วัชรินทร์รัตน์ รักษาการแทนอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รองศาสตราจารย์ ดร.วิไลศักดิ์ กิ่งคำ รักษาการแทนรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร พร้อมทั้งศ.ระพี สาคริก บูรพาจารย์และอดีตอธิการบดี รศ.คุณหญิงสุชาดา ศรีเพ็ญ อดีตรองอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ ตลอดจนข้าราชการ เจ้าหน้าที่ ประชาชนในจังหวัดสกลนคร ร่วมเฝ้าทูลละอองพระบาท รับเสด็จจำนวนมาก
สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้ายอุทยานบัว อำเภอเมืองสกลนคร ก่อนเสด็จฯ ไปทรงปลูกบัวสุทธาสิโนบล หรือ บัวผัน-เผื่อน สีฟ้าอมม่วง จากหมู่เกาะชวา ซึ่งเป็นพันธุ์บัวต้นแรกๆที่มีหลักฐานบันทึกว่าได้มีการนำเข้ามาจากต่างประเทศ อย่างเป็นทางการเป็นเวลานานถึง 105 ปี นับถึงปีพุทธศักราชราช 2559 และทอดพระเนตรนิทรรศการถาวร โดยมีรองศาสตราจารย์ คุณหญิงสุชาดา ศรีเพ็ญ ทูลเกล้าฯ ถวายพวงมาลัยข้อพระกร จากนั้นทรงทอดพระเนตรนิทรรศการภาพวาดของจิตรกร นิทรรศการทางวิชาการเกี่ยวกับบัว และทรงลงพระนามาภิไธยในแผ่นศิลา ประทับรถไฟฟ้าพระ ที่นั่ง และทอดพระเนตรบริเวณสระบัว
อุทยานบัวแห่งนี้ สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เนื่องในวโรกาสทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ ๕ รอบ ในปี พ.ศ.๒๕๕๙ ตั้งอยู่ภายในพื้นที่อุทยาน หนองหารเฉลิมพระเกียรติ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกรมประมงให้ใช้พื้นที่หนองหารน้อย ตำบลท่าแร่ อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร จำนวนประมาณ ๗๐๐ไร่ เพื่อจัดทำโครงการอุทยานหนองหารเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวโรกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบในวันที่ ๕ ธันวาคม พ.ศ.๒๕๔๒ และ ได้จัดทำพื้นที่ส่วนหนึ่งของหนองหารน้อย จำนวน ๕๐ ไร่ เพื่อเป็นอุทยานบัวดังกล่าว
โดยในปีพุทธศักราช ๒๕๔๘ เริ่มมีการนำบัวพันธ์ต่าง ๆ มาทดลองปลูก พร้อมเริ่มงานวิจัยเกี่ยวกับพันธุ์บัว และการใช้ประโยชน์จากบัวพันธุ์ต่าง ๆ ต่อมาในปีพุทธศักราช ๒๕๕๑ จึงได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงพื้นที่เพื่อนำบัวพันธุ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พันธุ์บัวหลวงในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือมาปลูกและมีการดำเนินการวิจัยมาอย่างต่อเนื่อง จนถึงปีพุทธศักราช ๒๕๕๒ได้ร่วมกับสมาคมบัวแห่งประเทศไทย และกลุ่มผู้รักบัว ริเริ่มดำเนินโครงการจัดสร้างอุทยานบัว โดยได้รับการสนับสนุนด้านงบประมาณอย่างต่อเนื่องจากจังหวัดสกลนคร เพื่อเป็นสถานที่จัดงานมหกรรมบัวนานาชาติในปีพุทธศักราช ๒๕๕๓
ปัจจุบันมีการรวบรวมพันธุ์บัวจากทั่วโลกไว้ที่อุทยานบัวแห่งนี้กว่า ๓๐๐ สายพันธุ์ นับเป็นอุทยานบัวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยมีสายพันธุ์บัวที่สามารถมาดูบัวที่บานได้ ทั้งกลางวันและกลางคืน บัวที่อุทยานบัวเฉลิมพระเกียรติบานทั้งปีไม่มีวันหยุด ดูได้ ๓๖๕ วัน มีผู้สนใจมาเยี่ยมชมปีละไม่น้อยกว่า ๒๐๐,๐๐๐ คน แบ่งพื้นที่จัดแสดงออกเป็น ๕ ส่วน ได้แก่
ส่วนที่ 1. ส่วนรวบรวมพันธุ์บัว เป็นส่วนของการรวบรวมพันธุ์บัวทั้งในและต่างประเทศ มากกว่า ๓๔ สายพันธุ์ จัดแสดงในรูปแบบอุทยานบัว มีสะพานไม้สำหรับเดินชมบัวต่าง ๆ ได้อย่างใกล้ชิด
ส่วนที่ 2. ส่วนแสดงพันธุ์บัว จัดแสดงในรูปแบบนิทรรศการกลางแจ้ง จำนวนกว่า ๗๕ สายพันธุ์ โดยจัดแสดงไว้ในกระถางกลางแจ้ง พร้อมป้ายข้อมูลต่าง ๆ เช่น ชื่อพันธุ์และชื่อวิทยาศาสตร์ เป็นต้น
ส่วนที่ 3. ส่วนนิทรรศการ จัดแสดงในรูปแบบของนิทรรศการถาวาร รวบรวมองค์ความรู้และความเป็นมาเกี่ยวกับบัวสายพันธุ์ต่าง ๆ เพื่อประโยชน์แก่การศึกษาสำหรับนักเรียน นิสิต นักศึกษา ตลอดจนประชาชนผู้สนใจโดยทั่วไป
ส่วนที่ 4. ส่วนแสดงบัวธรรมชาติ ในลักษณะพิพิธภัณฑ์ธรรมชาติที่ปลูกบัวหลากหลายสายพันธุ์ ให้เจริญเติบโตมีความสวยงามตามธรรมชาติและเพื่อให้ประโยชน์ในการศึกษาวิจัย