วันที่ 24 กรกฎาคม พ.ศ. 2558 ณ ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน รองศาสตราจารย์ ดร.วิโรจ  อิ่มพิทักษ์ นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้รับเชิญเป็นวิทยากรพิเศษบรรยาย เรื่อง  “Kasetsart University: The Autonomous University that shapes the future” ในการประชุมสัมมนาอาจารย์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ประจำปี 2558 ซึ่งมีการถ่ายทอดสดผ่านระบบการเรียนการสอนทางไกล ไปยังวิทยาเขตกำแพงแสน วิทยาเขตศรีราชา วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร และ ระบบออนไลน์ “ นนทรีไลฟ์ ” บนเครือข่ายนนทรีเน็ต

          ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้ริเริ่มจัดการประชุมสัมมนาอาจารย์ มาตั้งแต่ พ.ศ. 2547  ซึ่งเป็นนโยบายที่กำหนดโดยอดีตอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ คนที่ 13 หรือ นายกสภามหาวิทยาลัยคนปัจจุบัน เพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ที่ดีของบุคลากรสายวิชาการในองค์กร ที่จะร่วมมือร่วมใจขับเคลื่อนและพัฒนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้ก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำ เป็นที่ยอมรับในสังคมไทยและสังคมโลก เปิดโอกาสให้ผู้บริหารและคณาจารย์ของมหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ จากทุกคณะและทุกวิทยาเขตได้มีการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและประสบการณ์ระหว่างกัน ซึ่งนับเป็นวัฒนธรรมที่ดีขององค์กร ในการพบปะกันก่อนเปิดภาคการศึกษา

          “Kasetsart University: The Autonomous University that shapes the future”  เป็นการเปิดมุมมองพิจารณาแนวทางพัฒนามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ให้ก้าวสู่การเป็นมหาวิทยาลัยระดับนานาชาติ สามารถแข่งขันได้ในเวทีโลก โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.วิโรจ  อิ่มพิทักษ์ นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และ รองศาสตราจารย์ ดร.บดินทร์  รัศมีเทศ รักษาการแทนรองอธิการบดี เป็นวิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิบรรยายพิเศษ

          รองศาสตราจารย์ ดร.วิโรจ  อิ่มพิทักษ์ นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ กล่าวตอนหนึ่งในการบรรยายพิเศษว่าการสร้างความเข้าใจกันของบุคลากรจะนำองค์กรไปสู่เป้าหมาย  “ที่ใดไม่มีประวัติศาสตร์ ที่นั่นไม่มีอนาคต”  ขอให้บุคลากรทุกภาคส่วนมาช่วยกันพัฒนาด้านคุณภาพให้ยิ่งใหญ่ไม่ด้อยไปกว่าด้านปริมาณ  ขณะนี้บริบทของเราเปลี่ยน เรามีสถานภาพเป็นมหาวิทยาลัยในกำกับของรัฐบาล เราควรใช้ช่วงเวลานี้เป็นจุดเริ่มต้นทำสิ่งที่เป็นระบบมากขึ้น และใช้ช่วงเวลานี้พัฒนาตนเอง การบริหารงานก็ต้องร่วมกันทำเป็นระบบมากขึ้น รวมถึงการทำงานในด้านต่างๆ  เอกลักษณ์ของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์   มุ่งสร้างศาสตร์แห่งแผ่นดิน เพื่อความอยู่ดีกินดีของชาติ ทุกอย่างล้วนเป็นอาหารหล่อเลี้ยงมนุษย์ทั้งสิ้น เราจะเปลี่ยนทรัพย์สินของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ทั้งหมด 25,000 ไร่ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ทั้งทางวิชาการและเงินรายได้ ซึ่งผลงานของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มีจำนวนมากมาย มีทั้งเผยแพร่อย่างเป็นระบบและไม่เป็นระบบ เราจะใช้สิ่งเหล่านั้นสร้างคุณค่าเพิ่มขึ้นได้อย่างไร ขอให้เราตั้งเป้าว่า อีก 3 ปี เราจะเป็นอะไร อีก 5 ปี จะเป็นอะไร ให้อาจารย์ช่วยกันฝัน คือ ฝันให้ไกลแล้วไปให้ถึง อาจารย์ฝันในสาขาของตน ในสาขาวิชาที่ท่านรับผิดชอบ แล้วทำให้ได้เพื่อจะได้เป็นนักพัฒนา ไม่ใช่แค่ฝันอย่างเดียวเราต้องรักษาความเป็นมหาวิทยาลัยวิจัยไว้ ให้คนเข้าถึงผลงานของเราได้ง่ายและทั่วถึง นอกจากนี้นิสิตของเราจะต้องศึกษาโดยลงพื้นที่ให้มากขึ้น ทั้งในและนอกหลักสูตร

KAS_6028