วันที่ 4 เมษายน 2560 รองศาสตราจารย์ ดร.วิโรจ อิ่มพิทักษ์ นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ให้การต้อนรับ ดร.วิฑูรย์ สิมะโชคดี นายกสมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ส.มก.) พร้อมด้วยคณะกรรมการบริหารสมาคมฯ ในโอกาสเข้าพบเพื่อหารือแนวทางความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ภายใต้นโยบาย “ส.มก. ก้าวไกล มหาวิทยาลัยก้าวหน้า”  ณ ห้องนายกสภามหาวิทยาลัย เกษตรศาสตร์ ชั้น 4 อาคารสารนิเทศ 50 ปี มก.

          อนึ่ง ขณะนี้ สมาคมนิสิตเก่ามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ (ส.มก.) อยู่ระหว่างการดำเนินการตั้ง คณะกรรมการบริหารสมาคมฯเพิ่มเติมจากที่ได้ แต่งตั้งคณะกรรมการชุดเเรกเรียบร้อยเเล้ว จำนวน 17 ท่าน โดยจะเชิญนายกสมาคมนิสิตเก่าของคณะต่างๆ ใน มก. เป็นกรรมการซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมเอกสารเสนอชื่อจดทะเบียนกรรมการเพิ่มเติม และตลอดเดือนเมษายนนี้ คณะกรรมการ ส.มก.จะเข้าพบหารือหาแนวทางทำความร่วมมือกับคณะต่างๆ เเละขอคำเเนะนำเเลกเปลี่ยนความคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายร่วมกันกับคณะ สมาคม และชมรมต่างๆที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ ห้เกิดผลสำเร็จตามนโยบาย             ” ส.มก. ก้าวไกล  มหาวิทยาลัยก้าวหน้า “

          โอกาสนี้ รองศาสตราจารย์ ดร.วิโรจ อิ่มพิทักษ์ นายกสภามหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ได้กล่าวต้อนรับและให้คำแนะนำในหลักการทำงานที่ยึดถือมาโดยตลอด ของการดำรงตำแหน่งเป็นอธิการบดีคนที่ 13 และนายกสภา ฯ คนที่ 28  โดยนำ “ศาสตร์แห่งแผ่นดิน”  ที่ประกอบด้วย 3 ศาสตร์มาปฏิบัติ ได้แก่ ศาสตร์ของพระราชา ซึ่งใช้ “คน” เป็นตัวตั้งศาสตร์ชุมชน ใช้ “คน” เป็นตัวตั้ง  และศาสตร์สากล ใช้ “หลักวิชาการ” เป็นตัวตั้ง การอาสาเข้ามาเป็นนายก ส.มก. เพื่อทำงานตอบแทนสมาคม ฯ มหาวิทยาลัย สังคม และตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน จึงมีบทบาทที่สำคัญอย่างยิ่งกับมหาวิทยาลัย และสมาคมฯ ที่เป็นองค์กรที่มีตัวแทนของสมาชิกสมาคม ฯ จำนวนสองเเสนกว่าคน ดังนั้นในการทำงานขอให้ยึดหลัก 3 ประการคือ 1) หลักธรรมภิบาล : มีคุณธรรม  โปร่งใส  รับผิดชอบได้  มีส่วนร่วม และคุ้มค่า  2) หลักสัมมาทิฐิ : การสร้างความเข้าใจให้เป็นหนึ่งเดียว และ 3) หลักพระบรมราโชวาท ของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 8 เมษายน 2560 ความว่า

          “… ขอให้มีความอดทน การทำงานทุกอย่าง ที่เราอุทิศตนไปแล้ว

          ถ้าเราได้รับการยกย่องกลับมาในเดี๋ยวนั้น มันก็ไม่มีอะไรเหลือ

          เหมือนกับเราลงแรงทำงาน ถ้าเราได้ค่าจ้างตอบแทน  ก็จบกันไป

          แต่ถ้าทำงานแล้วไม่ได้ค่าจ้างหรือคำสรรเสริญ

          สิ่งเหล่านั้นก็จะเป็นกำไรของเราที่ฝากไว้

          และยิ่งกว่านั้นถ้าเราทำงานที่ต้องรับภาระ

          เป็นเป้าให้ทุกคนเขาโจมตีเรา

          โดยที่เราปกป้องเพื่อประโยชน์ส่วนรวม

          อันนี้ยิ่งเป็นกุศล …”

          ในตอนท้ายของการหารือ นายกสภา ฯ ได้กล่าวอวยพรให้ นายก ส.มก. และคณะกรรมการ ฯ ประสบความสำเร็จในการทำงาน พร้อมกับได้เชิญนายก ส.มก. ไปเยี่ยมชมวิทยาเขตต่าง ๆ ของ มก. โดยในส่วนของวิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสกลนคร นั้น มีกำหนดไปเยี่ยมชม ในวันที่ 26-28 พฤษภาคม 2560